การเลือกซื้อหุ้นตามลำดับความสำคัญ ของ T3B (ให้ดูจากกราฟ day ย้อนหลัง 1ปีเท่านั้น

เริ่มโดย admin, กรกฎาคม 19, 2014, 01:19:34 AM

« หน้าที่แล้ว - ต่อไป »

admin

ผมเคยไปสมัครเรียน และสมัครสมาชิกใช้โปรแกรมดูหุ้น T3B ของ www.t3btrader.com ที่สีลมตรงข้ามแบงค์กรุงเทพ รู้สึกว่าโปรแกรมนี้มีความแม่นยำพอสมควร จึงใช้มาตลอด

บอกก่อนว่า T3B ไม่ชอบซื้อถูกขายแพง เพราะคนส่วนใหญ่ถือหลักนี้แล้วกลายเป็นเม่า 95%ในท้องตลาดที่ขาดทุน
T3B ชอบซื้อแพง และขายแพงกว่าเพราะชัวร์จัด รวยจริง
T3B ทำงานบนหลักการง่ายๆ และคล้ายกับลุงโฉลก แห่ง www.chaloke.com
สำคัญสุดคือ การเลือกหุ้นที่จะเล่น และการขาย
   
ขอพูดเรื่องการขายก่อน
T3B และ ลุงโฉลก คิดเหมือนกันคือ ไม่มีเป้าราคาที่จะขายหรอก ใครจะไปรู้ว่าราคามันปั่นได้สูงสุดเท่าไหร่? แต่สิ่งที่เรารู้คือ แนวรับแนวต้าน
พูดง่ายๆ พอซื้อหุ้นแล้ว จะขายเมื่อหุ้นร่วงต่ำกว่าแนวรับเท่านั้น (ถ้ายังไม่กำไรเราเรียกว่า cut loss แต่ถ้าแนวรับนั้นสูงกว่าทุนของเรา คือมีกำไรแล้ว เราเรียกว่าเป็นการ Protect Profit)
ฉะนั้น ถ้าไม่ร่วงหลุดจากแนวรับ ก็ไม่ขาย ถ้าหุ้นนั้นดีจริง แนวรับจะขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงกว่าต้นทุนของเราเอง เมื่อไหร่ที่ร่วงต่ำกว่าแนวรับแล้วค่อยขาย มักได้กำไรไม่ต่ำกว่า 20% ขึ้นไป

การเลือกซื้อหุ้นตามลำดับความสำคัญ ของ T3B (ให้ดูจากกราฟ day ย้อนหลัง 1ปีเท่านั้น กราฟอื่นไม่ใช้)
1   UPTREND
ข้อนี้ สำคัญสุด ถ้าtrend แนวโน้มไม่ชัดเจนว่าจะขึ้นหรือลงไม่เล่นเด็ดขาด (นี่คือสาเหตุที่ปีนี้ผมไม่เล่นเฮียปอเลย เพราะเป็นหุ้นตุ๊ด จะขึ้นก็ไม่ขึ้น ลงก็ไม่ลง ขึ้นแล้วก็ทุบ เล่นรอบกันอยู่ได้ อันตรายโอกาสติดดอยสูง marginกำไรต่ำ แต่ บ้านน้องปูพอเล่นได้ เพราะtrend ชัดเจน)   

2   break high 3/2/1yr > 9/6/3mo
ข้อนี้แหละที่ขัดใจความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่คิดว่าต้องซื้อถูกขายแพง แต่ตำรานี้สอนว่า ของถูกคือของห่วยอย่าซื้อ ให้ซื้อของแพงที่กำลังจะวิ่งไปแพงยิ่งกว่า

ข้อนี้แปลว่า หุ้นที่จะซื้อ ราคาต้องมีnew high หุ้นที่จะเล่นอย่างน้อยราคาต้องเป็น 3 month high (สูงที่สุดในรอบสามเดือนที่ผ่านมา) ดีที่สุด ต้องเป็น 3 yr.high(ราคาไม่เคยแพงอย่างนี้เลยในรอบสามปีที่ผ่านมา) ฉะนั้น หุ้นที่ถือว่าเป็น best opportunity ก็คือ ALL TIME HIGH นั่นเอง อย่าไปกลัวมัน วันนี้พี่ทับที่รัก all time high ท่านว่าให้รีบซื้อเลย อย่ารอให้เขาทุบมารับ เพราะมีโอกาสตกขบวนสูงกว่า เหมือนหลายคนที่ตกใจตอนมันขึ้นมา 90 แล้วไม่ซื้อ จะรอทุบ มันเลยโดดข้ามหัวมา 118 เลย )

3   x 2 Accumulate volume ขึ้นไป
แปลว่า daily volume ช่วงนี้ต้องอย่างน้อย สูงกว่า daily volume เฉลี่ยย้อนหลังหกเดือน ถึงสองเท่า เป็นอย่างน้อย   ( ส่วนตัวผมจะเลือกแต่หุ้นที่ x4 ขึ้นไปเท่านั้น ยิ่งพี่ทับช่วงนี้ x5 โอ้ววววว น้ำยายไหย )
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

กรกฎาคม 19, 2014, 01:55:44 AM #1 Last Edit: กรกฎาคม 19, 2014, 01:58:17 AM by admin
ในการเล่นหุ้นให้ได้กำไรมากและขาดทุนน้อยเป็นสิ่งที่หลาย คนต้องการเมื่อเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น การทำนายอนาคตของราคาหุ้นให้ถูกต้องและถูกทางคือสิ่งจำเป็น แล้วอะไรละที่จะช่วยนักเล่นหุ้นดูแนวโน้มการลงทุนหุ้นให้ถูกว่าเป็นขาขึ้น หรือเป็นขาลง? เข้าซึ้อหุ้นที่ราคาเท่าไร ซื้อแล้วจะขายที่ราคาไหน ตั้งจุดStop Loss ตรงไหน..เรามี Technical Analysis Tool ที่ใช้ง่ายมาแนะนำกัน
พื้นฐานการเล่นหุ้นทางเทคนิคเรื่องแรกที่นักเล่นหุ้นมือใหม่ควรรู้คือ การใช้เสัน trend line

แล้วเส้น trend line ช่วยอะไรบ้าง

ช่วยให้เห็นแนวโน้มราคา ขาขึ้น ขาลง ซื้อถูกทางโอกาสทำกำไรมีสูง
ช่วยแนะจุดเข้า-จุดออก entry-exit
ลดการขาดทุนเมื่อมาผิดทางกำหนด stop loss
วิธีลากเส้น Trend line และเทคนิค

-ลากเส้นตรงเส้นเดียวผ่านจุดต่ำสุด หรือจุดสูงสุดของราคา อย่างน้อย2จุด
-ถ้าเส้นตรงที่ลากผ่านจุด3,4,5?เป็นการยืนยันแนวโน้ม
-เส้นที่ลากต้องลากก่อนการเปลี่ยนแน้วโน้มของราคา

ดูตัวอย่างการลากเส้น Trend Line ด้านล่าง
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

รูปด้านบน เส้นสีน้ำเงินเป็นแนวรับ Support หุ้นอยู่ในขาขึ้น แต่ถ้าเวลาผ่านไปราคาสามารถทะลุผ่านแนวรับลงมาได้ หุ้นก็จะกลับมาสู่ขาลง

รูปด้านล่าง เส้นสีน้ำเงินเป็นแนวต้าน Resistance ซึ่งเส้นจะอยู่เหนือกราฟราคาหุ้น  หุ้นAmazon อยู่ในขาลงแล้วราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านแล้วเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

เส้นแนวต้านและแนวรับของ Trend Line เป็นจุดคาดหวังของนักเล่นหุ้น

ที่แนวต้าน กลุ่มที่มีหุ้นอยู่ในมือก็ตั้งใจขายที่จุดแนวต้านเพื่อทำกำไร อีกกลุ่มหนึ่งก็จะซื้อหุ้นที่แนวต้านเพราะคาดหวังว่าถ้าผ่านแนวต้านไปได้ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปอีกแล้วไปขายทำกำไรในราคาที่สูงขึ้นไปอีก ตรงจุดนี้เองจะมีแรงเทขายจากกลุ่มต้องการขายและแรงซื้อจากอีกกลุ่มที่มองว่าราคาหุ้นจะไปต่อ ถ้าแรงซื้อหุ้นมีมากกว่าแรงเทขายราคาก็จะทะลุผ่านแนวต้านไปได้ พวกขายหุ้นไปบางส่วนเห็นราคาหุ้นไปต่อก็เปลี่ยนใจเข้ามาซื้อผสมโรงเข้าไปอีกราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปอีก ในทางกลับกันถ้าราคาขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านแรงซื้อมีน้อยกว่าแรงขายราคาหุ้นก็จะล่วงลงแล้วอาจขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านอีก หรืออาจจะร่วงลงมาทดสอบที่แนวรับแล้วอาจจะเด้งขึ้นไปอีก สำหรับแนวรับนี่เองก็จะเป็นตรงกันข้ามกับแนวต้านคือถ้ามีแรงเทขายมากกว่าแรงซื้อราคาก็จะทะลุผ่านแนวรับไปได้ ถ้ากลุ่มที่มีหุ้นอยู่ในมือเกิดอาการกลัวว่าราคาหุ้นจะตกลงไปกว่านี้ก็จะขายผสมโรงกันไปด้วยราคาก็จะร่วงลงอย่างรุ่นแรง ซึ่งตรงแนวรับนี้เองเราสามารถตั้งราคาStop Lossเพื่อลดการขาดทุนเมื่อราคามาผิดทาง
จะเห็นว่าเส้น Trend Line นี้มีประโยชน์มากและต้องใช้ควบคู่กับการดูปริมาณ Volume การซื้อขายอีกด้วย ถ้ากำลังมีมากก็จะสามารถผ่านเส้น Trend Line ไปได้ Trendline Breakout

trendline breakout

ในภาพด้านล่าง

Case1 ถ้าเราเข้าซื้อตรงเลข 1 เรามองว่าเป็น ขาขึ้นพอเวลาผ่านไปราคามาทดสอบที่แนวรับซึ่งถ้าผ่านแนวรับไปได้เราต้องรีบขายหุ้นออกเพื่อลดการขาดทุน ตั้ง Stop Loss ตรงแถวเส้นแนวรับ ในกรณีนี้เราไปขายในจุดที่ 2 ก็ยังมีกำไร และเป็นจุดที่ราคาเปลี่ยนเป็นค่าลงอย่างชัดเจน ก็ไม่ควรถือหุ้นต่อ

Case 2 เราเข้าซื้อในจุดที่ 3 (ต้องตั้ง stop loss จุดที่ 2 ) เรามองว่าหุ้นจะขึ้นต่อ แต่เวลาผ่านไปหุ้นกลับมาสู่ขาลงแล้วผ่านแนวรับไปได้ Trendline Breakout เราจะไม่ขาดทุนมากในจุดนี้เพราะมีแรงเทขายอย่างรุ่นแรง ตั้งStop Loss ไว้ก่อน แล้วค่อยรอรอบใหม่

Case 3 ในกลุ่มที่รอการ Short Sell เล่นหุ้นขาลง ในโบรกเกอร์ต่างประเทศ ในจุดที่ 2 คือจุดที่ ส่งคำสั่ง sell แล้วมาBuy ในราคาที่ต่ำลงมา ตรงจุดกลับตัว หรืออาจใช้แนวต้าน

จะเห็นว่าการใช้เส้น Trend Line เป็นการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคอย่างหนึ่งที่ใช้งาน แต่ต้องฝึกในการลากเส้นและฝึกในการวิเคราะห์บ่อยๆเพื่อให้เกิดความชำนาน
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

จิตวิทยาในการเล่นหุ้น
จากหนังสือ คัมภีร์หุ้น


       ทำไมหลายคนซื้อหุ้นตัวไหนตัวนั้นจะลง แต่พอขายแล้วหุ้นกลับขึ้น หลายคนที่เล่นหุ้นในปัจจุบันจะรู้สึกเหมือนโชคไม่เข้าข้าง จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของดวงหรืออะไรกันแน่ ทฤษฎีการลงทุนต่างๆ ควรจะใช้ได้ดี เพราะหลักการลงทุนผู้ลงทุนควรจะเลือกลงทุนสิ่่งที่ดีและอยากได้กำไรไม่อยาก ขาดทุน แต่จริงๆกลยุทธิ์ต่างๆกลับใช้ไม่ได้ผลเพราะนักลงทุนแต่ละคนเองมี"อคติ"ยอม ขาดทุน หากคิดว่าหุ้นจะลงต่อ หรือยอมซื้อของที่แพงมากหากคิดว่ามันจะขึ้นไปต่อ สิ่งที่นักลงทุนทุกคนใช้ จริงๆจึงเป็นการ"คาดคะเน" ใช้ "สมอง"ประมวลสิ่งต่างๆจากข่าวสารและปัจจัยโดยรอบแต่หารู้ไม่ว่า สมองมีกระบวนการตัดสินใจลึกๆภายในที่ขึ้นอยู่กับ"อารมณ์"มากกว่า "เหตผล"ยกตัวอย่างการเลือกคู่ครองที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตผลแม้คนที่เรียน เก่ง มีสมองดีที่สุดก็มักใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต มากกว่าเหตผล
      นาย เวอร์นอน สมิธ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลปี 2002 ผู้ที่ศึกษาการเงินเชิงพฤติกรรมเคยกล่าวไว้ว่า "นักลงทุนทุกคนมีกล่องดำที่เป็นส่วนประมวลผลการตัดสินใจอยู่ในสมองโดยไม่มี ใครรู้ว่ากล่องดำอันนี้มีวิธีในการตัดสินใจอย่างไร แต่กระบวนการตัดสินใจนี้ไม่มีเหตผล เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของจิตใจเป็นหลัก" เมื่อคนแต่ละคนไม่ได้ใช้ความมีเหตุ มีผลในการคิดแล้วการลงทุนที่เป็นสิ่งสะท้อนความคิดของนักลงทุนแต่ละคน ย่อมไม่มีเหตุผล ตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลย มีคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมคนที่เรียนด้านการลงทุน เก่งที่ 1-10 อันดับของระดับมหาวิทยาลัย Wharton กับไม่เคยมีชื่อเสียงในวงการลงทุนเลย ทำไมคนที่ IQ สูงขนาดนั้นถึงได้ไม่ประสบผลสำเร็จในตลาดหุ้นกัน
       ย้อนกลับมาที่ตลาดหุ้นไทยจะเห็นว่า คนที่ยิ่งฉลาด ยิ่งขาดทุนมากในตลาดหุ้น แต่คนที่ฉลาดปานกลางแต่หากมี EQ สูงแล้ว กลับสามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่าเหตผลทั้งหมดจะค่อยๆถูกเฉลยในบทต่อๆไป ลองดูเหตการเหล่านี้
       Ex1. คุณคิดว่าบริษัท A ผลประกอบการณ์ออกมาดีแน่ เลยซื้อหุ้นที่ราคาสิบบาท ตั้งใจจะขายในระยะสั้นๆที่่ 12 บาท เมื่อผลประกอบการณ์ออก แต่พอผลประกอบการณ์ออกมาดีดังคาดไว้ แต่ราคาหุ้นตกลงไป 8 บาท คุณทำใจขายทิ้งไม่ได้ (Avoid Regret) และคิดว่าหากราคาหุ้นกลับมาแค่เพียง10 บาท เท่าทุนก็จะขายไป ( Referance Point)
      EX2. คุณซื้อหุ้นที่บริษัท B ที่ราคา 10 บาทจำนวน หมื่น หุ้น พอราคาหุ้นวิ่งไป 12 บาท คุณขายทำกำไรไป 20000 บาท พอราคาหุ้นวิ่งขึ้นไป 15 บาท คุณรู้สึกเสียดายอย่างมาก(เจ็บใจที่ขายเร็ว ขายหมู) พอราคาหุ้นเริ่มปรับตัวลงมาที่ 13 บาท คุณซื้อหุ้นกลับมาแต่คราวนี้ซื้อไป 20000 หุ้นเลย เพื่อเอากำไรเยอะๆ (โลภ เพราะพึ่งได้กำไรมา) ซื้อแล้วหุ้นวิ่งกลับไป 10 บาท เหมือนเดิม ปรากฏว่าเบ็ดเสร็จแล้วคุณขาดทุน 40000 บาท (งง?)
      แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ท่านเคยประสบมาหรือเคยได้รับคำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าโปรดอย่าตามหลัง "มวลชน" แบบหลับหูหลับตา อันที่จริงคำว่า"มวลชน"นั้นไม่ใช่อื่นใด หากแต่เป็น"เรา "และ "ท่าน" นั้นเอง พฤติกรรมของ "มวลชน" ก็คือพฤติกรรมของคนทั่วไปหากมวลชนตัดสินใจผิดพลาดหรือเกิดปฏิกริยาทางอารมณ์ อย่างรุนแรงเพราะความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เราและท่าน ก็ตกออยู่ในสภาพเช่นนั้นด้วยเช่นกัน
     ดังนั้นลำพังการคิดว่าเราต้องปฏิบัติให้แตกต่างจากคนอื่นไม่เกิดประโยชน์ อะไร เพราะเรื่องเหล่านี้คนส่วนใหญ่ต่างทราบดีว่าควรทำอะไร ยกตัวอย่าง การสูบบุหรี่ ทุกคนทราบดีกว่า การเลิกบุหรี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องแต่หากไม่"ปฏิบัติ"ก็ไม่มีทางก้าวพ้นจาก อุปสรรคทางความคิดและอารมณ์ที่ส่งผลให้เราไม่ประสบผลสำเร็จในตลาดหุ้นได้
       ใน"วิกฤติ มีโอกาส" แต่จะมีซักกี่คน ที่มองข้ามผ่านเมฆหมอกแห่งความกังวลเห็นถึงวันข้างหน้าที่สดใสได้ ในเมื่อบรรยากาศทั้งหมด มันไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างดูจะแย่ลง แย่ลง คนเรามองเห็นสิ่งที่ใจรู้สึกหากบรรยากาศรอบตัวร้อนเราก็จะเห็นแค่ความร้อน เราจะนึกถึงเวลาอากาศเย็นไม่ถูกเลย สิ่งเหล่านี้เป็นวิทยาสาสตร์ที่พิสูจน์แล้วว่า คนเราใช้ความรู้สึก ณ ขณะนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการตัดสินใจเรื่องใดๆ เช่น เวลาคนหิวจะชอปปิ้งมากกว่าเวลาอิ่มเป็นต้น

       อารมณ์มีผลต่อการตัดสินใจ
คุณ อาจคิดว่าอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ แต่จริงๆไม่ใช่แม้คนที่มีเหตผลที่สุดหากขาดซึ่งอารมณ์ ก็จะไม่สามารถตัดสินใจใดๆได้ โดยเคยมีการศึกษาเรื่องนี้โดยนักประสาทวิทยา ชื่อ แอนโทนิโอ ดามาชิโอ ได้รายงานว่ามีคนไข้ที่สมองส่วน Ventromedical Frontal Crotices ถูกทำลายซึ่้งเป็นสมองส่วนที่ทำให้เกิดอารมณ์ แต่สมองส่วนความจำความฉลาดและความสามารถในการใช้เหตผลยังเป็นปกติอยู่ แต่จากการทดลองหลายครั้งพบว่า การปราศจากอารมณ์ในกระบวนการตัดสินใจได้ทำลายความสามารถในการตัดสินใจอย่าง สมเหตสมผล หมดไปด้วย
       ดังนั้นหากสถานการณ์ไม่ดี ทิศทางที่สมองที่คิดได้ จากข่าวสารและความรู้สึกคือ สิ่งที่ดำเนินต่อไป ของความไม่ดี จะให้สมองสั่งการว่า "ดี" จะเป็นการยากสมองจะสั่งการขัดแย้งออกมาทันทีว่า "ดีจริงหรือ" ใช้เหตผลอะไรที่คิดว่ามันจะดี ? ดังนั้นการซื้อหุ้นตอนที่บรรยากาศร้ายสุด แม้แต่คุณเองยังกลัว คงทำได้ยาก เพราะสมองจะคิดขัดแย้งออกมาว่า "จริงหรือ คราวนี้อาจลงยาวนะ"

       เครื่องมือเทคนิคกับอารมณ์
         บางคนบอกว่าหากเราไม่ใช้อารมณ์เข้ามาในการลงทุนหุ้นแต่เชื่อเฉพาะเครื่องมือ ทางเทคนิคซึ่งเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้อ้างอิงใดๆเกี่ยวกับอารมณ์ของตลาดล่ะ จะได้ผลหรือไม่? คำตอบแรก ก็ต้องบอกว่าท่านที่คิดแบบนี้ ยังไม่เข้าใจเครื่องเทคนิคที่ดีพอ เพราะจริงๆแล้วเครื่องมือทางเทคนิคคือการใช้หลักสถิติศาสตร์ถอดแบบสภาพความ เป็นจริงในตลาดหุ้นแล้วนำมาพยากรณ์ความเป็นไปได้ต่อไป ซึ่งความเป็นจริงในตลาดหุ้นที่ถูกนำมาถอดแบบนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์"ความกลัว" และ "ความโลภ" ดังนั้นการใช้เครื่องมือก็ยังอิงกับอารมณ์ของตลาดอยู่ดี
         คำตอบที่สอง ขออ้างถึงคุณ J. Wells wilder เจ้าของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคยอดนิยม เช่น RSI (Relative Strength Index) PAR(Parabolic Sar) MOM ( Momentum) Volatility( แรงกระเพื่อมของระดับราคา) ซึ่งเครื่องมือทางเทคนิคเหล่านี้ สร้างชื่อเสียงให้กับ Wilder เป็นอย่างมาก แต่ในภายหลัง เขาได้ออกบทความใหม่ ที่ชื่อว่า Adam's Theory เป็นการปฏิเสธเครื่องมือทางเทคนิคของเขาที่คิดค้นมาก่อนหน้า โดยเขาบอกว่า ทฤษฎีใหม่นี้เป็นการตกผลึกในความคิด ความเข้าใจ ในเรื่องการลงทุน หลายสิบปีที่เขามี
         ทฤษฎี Adam ตั้งอยู่บนข้อสรุปที่ว่า"ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์อันไหนที่สมบูรณ์ในตัว ที่สามารถชี้นำการตัดสินใจ ลงทุนได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง 100% แต่เครื่องมือแต่ละชิ้นที่มีอยู่ในวงการ ต่างมีข้อบกพร่องในตัวเองไม่อาจ"จับตลาด"จนอยู่หมัดได้ ด้วยเหตุว่าตลาดว่า ตลาดนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่มีลักษณะตายตัว แต่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นได้ตลอดเวลา
        เขาตั้งคำถามว่า "หากเครื่องมือเหล่านั้นแม่นยำจริง ทำไมนักลงทุน ที่ใช้เครื่องมือเหล่านั้น จึงยังประสบความขาดทุนอยู่ เครื่องมือเหล่านั้นจะวิเคราะห์เฉพาะจุด ไม่ผิดกับตาดบอด คลำช้าง ไม่เห็นภาพรวมของตลาดหรือของตัวหุ้นนั้นๆ มันไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ผันแปรอยู่เสมอของตลาดหุ้นได้ "
        ดังนั้นแม้เครื่องมือต่างอาจจะไม่มีความสมบูรณ์ในตัวมัน แต่หากเราเข้าใขอารมณ์ตลาด มาผสมผสานการ การวางแผน การลงทุนที่เข้าใจหลักจิตวิทยามวลชน การเล่นหุ้นจะทำได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องอารมณ์นั้น จากหนังสือหลายๆเล่ม พอสรุปเหมือนกันได้ดังนี้
อ่านต่อบทความต่อไปครับ

Credit:www.9professionaltrader.blogspot.com จิตวิทยาในการเล่นหุ้น | Forex Trading Blog สอนเทรด Forex - แหล่งศึกษาข้อมูล Forex และสอน Trade Forex แบบมืออาชีพ
Under Creative Commons License: Attribution
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs

    

admin

Status   Status Meaning
B   ซื้อ
S   ขาย
Validity : IOC   Immediate or Cancel คำสั่งซื้อขายที่ต้องการซื้อหรือขายหุ้น ตามราคาที่กำหนด ไว้ในขณะนั้นโดยทันที หากซื้อหรือขายได้ไม่หมดทั้งจำนวนที่ต้องการ ส่วนที่เหลือจะถูกยกเลิก
Validity : FOK   Fill or Kill คำสั่งซื้อขายที่ต้องการซื้อหรือขายหุ้นในราคาที่กำหนด โดยต้องการให้ได้ทั้งจำนวนที่ ต้องการ หากได้ไม่ครบก็จะไม่ซื้อขายเลยและจะยกเลิกคำสั่งนั้นทั้งหมด
Validity : Day   การส่งคำสั่งแบบ Normal Order เริ่มต้นระบบจะแสดง Default เป็น Day
At-The-Open Order (ATO)   เป็นคำสั่งซื้อขายที่ใช้เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อขายทันทีที่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย ณ ราคาเปิด
At-The-Close Order (ATC)   เป็นคำสั่งซื้อขายที่ใช้เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อขายทันทีก่อนที่ตลาดจะปิดทำการซื้อขาย ณ ราคาปิด
Special Market Order (MP)   ? ใช้เมื่อต้องการซื้อหรือขายทันทีในราคาที่ดีที่สุดในขณะนั้น ระบบจะจับคู่ซื้อขายให้ทันทีโดยถือว่า MP เป็น
   - การเสนอซื้อ ณ ราคาเสนอขายต่ำสุด
   - การเสนอขาย ณ ราคาเสนอซื้อสูงสุด
? ใช้ได้เฉพาะช่วงเปิดการซื้อขายและเฉพาะบนกระดานหลักและกระดานต่างประเทศ
? หากไม่สามารถจับคู่ซื้อขายได้ทั้งหมด จำนวนที่เหลือจะ :
   - Bid : ถูกจัดเป็นการเสนอซื้อใน ณ ราคาที่สูงกว่า Last Price 1 ช่วงราคา
   - Ask : ถูกจัดเป็นการเสนอขาย ณ ราคาที่ต่ำกว่า Last Price 1 ช่วงราคา
ถ้าไม่มีคำสั่งด้านตรงข้ามรออยู่ระบบจะไม่รับคำสั่ง MP
Market to Limit Order (MTL)   ? จับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามที่ราคาที่ดีที่สุด (Top Best Price)
? หากจับคู่ไม่หมด ระบบจะส่งคำสั่งให้ใหม่โดยอัตโนมัติในราคา Last Sale
Market Order (MKT)   ? จับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามทุกระดับราคาตาม Best Price ที่อยู่ในคิว
? หากจับคู่ไม่หมด ระบบจะยกเลิกจำนวนที่เหลือโดยอัตโนมัติ
Iceberg Volume   ? ซอยคำสั่งปริมาณมากเป็นคำสั่งย่อยและทยอยส่งต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ
? ไม่กำหนด Volume ขั้นต่ำ แต่ต้อง Slice ไม่เกิน 100 Order ย่อย
? ระบบจะรวมจำนวน Deal ที่ซ้ำให้เป็น Deal เดียวกัน
บจก.สยามเอวีเอส
63 Moo 2 แพรกษาใหม่ เมือง สมุทรปราการ
นำเข้า-จำหน่าย เครื่องจักร cnc มือสองญี่ปุ่น
ติดต่อ คุณ ธนเดช  084-387-2401
EMAIL kiattub@gmail.com
คลิกลิ้งแอดไลน์ได้เลย Line id : boysiamavs
http://line.me/ti/p/~boysiamavs